อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำกัดเพศหรือช่วงอายุ อาจเกิดจากการยกของหนัก ใช้กล้ามเนื้อส่วนหลังในการรับน้ำหนัก การออกกำลังกายผิดวิธี การนั่งทำงานผิดท่าเป็นเวลานาน หรือแม้แต่การใส่ส้นสูงก็ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ แต่สาเหตุนึงที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือการปวดหลังจากการนอน ซึ่งที่นอนหรือฟูกเป็นสิ่งที่เราใช้รองรับกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของเราในขณะที่นอนหลับทั้งคืนและทุกคืน จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังด้วยเช่นกัน วันนี้ NON101 : บทเรียนพื้นฐานที่ควรรู้ จะมาตอบข้อสงสัยว่าเพราะอะไร เราถึงมีอาการปวดหลังหลังจากการตื่นนอน พร้อมทั้งบอกวิธีรับมือและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการนี้ขึ้นกับเรา
อาการปวดหลังจากการนอน
สังเกตได้ว่าหลังจากตื่นนอนจะรู้สึกว่ามีอาการปวดและเมื่อยส่วนหลัง รู้สึกตึงไปทั้งแผ่นหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหลังส่วนล่าง และช่วงบั้นเอว และจะยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังคงนอนแบบเดิมและนอนบนที่นอนเดิม นอกจากการนอนผิดท่าแล้ว กว่า 90% ของผู้ที่มีอาการปวดหลังจากการนอน เกิดจากการนอนบนที่นอนที่มีคุณภาพไม่ดี วัสดุไม่ดี โครงสร้างที่นอนไม่แข็งแรง ไม่รองรับสรีระร่างกายของผู้นอน และเมื่อใช้ไปสักระยะเวลาหนึ่ง จะเกิดการยุบตัวก่อนเวลาอันควร ซึ่งปกติแล้วจะยุบเป็นแอ่งตรงตำแหน่งที่เรานอน ทำให้แผ่นหลังและกระดูกหลังของเราโค้งงอและทำให้เกิดอาการปวดหลัง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้ผลิตที่นอนไม่ได้มีความเข้าใจในเรื่องของการผลิตที่นอนอย่างแท้จริง หรืออาจจะคำนึงถึงต้นทุนในการผลิต ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดมาเป็นอันดับแรกก่อนที่จะคำนึงถึงคุณภาพของสินค้า
รวมไปถึงที่นอนที่เสื่อมสภาพแล้วก็เป็นสาเหตุของอาการปวดหลัง ให้ลองสังเกตุว่าที่นอนจะมีลักษณะที่นุ่มขึ้นจากเดิมกว่าตอนที่ซื้อมา หรือที่นอนมีลักษณะที่แข็งขึ้นผิดปกติ ในที่นอนบางประเภทอาจรู้สึกเหมือนมีวัสดุอะไรทิ่มออกมาจากที่นอนของเรา หรือถ้าหนักกว่านั้นก็อาจได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ออกมาจากที่นอน นั่นเป็นสัญญาณว่าควรเปลี่ยนที่นอนใหม่ในทันที
วิธีรับมือและป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลัง
- ท่านอนที่แนะนำสำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง คือท่านอนตะแคงกอดหมอนข้างโดยใช้ขาก่ายหมอนข้างไว้ และท่านอนหงาย โดยให้นำหมอนใบเล็กๆ รองด้านหลังของเอว หรือนำหมอนหนุนใต้เข่าทั้ง 2 ข้าง ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้
- หากมีอาการปวดหลังอยู่แล้ว ควรเลือกนอนที่นอนที่มีความแน่น และควรหลีกเลี่ยงที่นอนที่มีความนุ่มจนเกินไป ชนิดยวบเป็นหลุมหรือเป็นแอ่งเวลานอน ไม่ควรนอนบนพื้น ให้หลีกเลี่ยงที่นอนที่แข็งมากจนไม่เกิดการรองรับแผ่นหลัง
- ควรเลือกที่นอนที่มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับแผ่นหลังและร่างกายในขณะที่นอน เช่น ที่นอนยางพารา เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูงตามน้ำหนักที่กดทับแต่ละผู้นอน และจะคืนสภาพเดิมในทันที สามารถรองรับกระดูกสันหลัง และกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายได้อย่างถูกต้องและดีเยี่ยมตามหลักสรีรศาสตร์
- ไม่ควรทนหรือฝืนนอนบนที่นอนที่เสื่อมสภาพ หรือเกิดการยุบตัวเป็นแอ่งแล้ว เพราะยิ่งทนนอนนานมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้กระดูกสันหลังคดงอ เกิดการอักเสบเรื้อรัง และส่งผลเสียอันตรายร้ายแรงได้
- หลีกเลี่ยง Topper ที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ หรือนุ่น เพราะมีลักษณะที่นุ่มและยวบ ทำให้เกิดการยุบตัวได้ง่ายเมื่อใช้ไปในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ ควรเลือก Topper ที่คุณภาพดีและไม่เกิดการยุบตัวได้ง่าย อย่างไรก็ตาม Topper เป็นเพียงแค่ตัวช่วยที่จะทำให้ที่นอนมีความนุ่มขึ้นจากที่นอนเดิมเท่านั้น แต่หากโครงสร้างหลักของที่นอนที่เป็นฐานไม่ดี ถึงแม้ว่าจะวาง Topper บนที่นอน ก็จะทำให้ Topper นั้นแอ่นและยุบตามสภาพของที่นอนที่เป็นฐาน และทำให้ปวดหลังเหมือนเดิม
- ไม่ควรนอน Topper ที่วางบนพื้นเป็นประจำทุกวัน เพราะ Topper ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นที่นอนสำหรับการนอนในระยะยาว หากแต่ใช้สำหรับนอนเล่น หรือนอนชั่วคราวในระยะเวลาไม่นาน และสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายเท่านั้น ซึ่ง Topper จะมีขนาดที่บาง ไม่ได้มีโครงสร้างและวัสดุที่ออกแบบมาเหมือนกับที่นอนทั่วไป
- ควรเปลี่ยนที่นอนใหม่เมื่อมีอายุการใช้งานที่เกิน 10 ปี เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีและสุขอนามัย เพราะถึงแม้ว่าที่นอนส่วนใหญ่จะมีการรับประกันที่ยาวนานเกิน10 ปีและรู้สึกว่ายังสามารถใช้งานได้ต่อ แต่ในความเป็นจริงแล้ววัสดุข้างในที่นอนนั้นย่อมมีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา
Tip – ที่นอนยางพารา Cattrena เป็นที่นอนสุขภาพ รุ่น COZY (นุ่มแน่น) และ รุ่น STAEDY (แข็งแน่น) เหมาะกับผู้ที่มีอาการปวดหลังจากการนอน เพราะจะมีความแน่นที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไปสำหรับการรองรับแผ่นหลังของผู้ที่มีอาการปวด การันตีด้วยประสบการณ์การผลิตที่นอนและประสบการณ์ตรงจากลูกค้าของเราที่มีมากว่า 30 ปี
อาการปวดหลังจากการนอนนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะมองข้าม ควรหลีกเลี่ยงและป้องกันไว้ไม่ให้เกิดขึ้นจะดีที่สุด เพราะหากมีอาการปวดหลังแล้ว นอกจากความทุกข์ทรมาน อาจต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกมาก โดยคำแนะนำที่กล่าวมานั้นจะทำให้อาการปวดหลังในลักษณะเบื้องต้นหายไปเองโดยธรรมชาติภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนลักษณะท่าทางการใช้ชีวิตประจำวัน แต่หากยังคงนอนที่นอนที่ไม่ได้คุณภาพต่อไป ก็จะทำให้เกิดอาการปวดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น จนอาจลามไปถึงการอักเสบที่เรื้อรังได้ ถ้าภายใน 1 เดือนยังคงมีอาการปวดมากอยู่ ทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาในขั้นตอนต่อไปค่ะ